ปัจจุบันหากมองตามหนังสือก็จะพบตำราเกี่ยวกับ การจัดการความเสี่ยง การตัดสินใจภายใต้ภาวะวิกฤต หลากหลาย แต่ถ้าถามว่าหนังสือเหล่านี้ช่วยได้หรือไม่ ตอบได้เลยว่าไม่สามารถนำมาใช้งานได้อย่างเต็มร้อย แต่จะสามารถนำมาเป็นแนวทางเพื่อการปฎิบัติเท่านั้น
การจัดการภายใต้ภาวะวิกฤตนั้นมีหลักการคร่าว ๆ คือ
- Awareness - ทราบความเสี่ยง
- Risk Assessment - ประเมินความเสียหาย
- Planing - วางแผนรับมือ
- Organization - จัดทีมรับมือ
- Monitoring - เฝ้าระวัง
- Implement of Plan - ซักซ้อมสถานการณ์
- Command & Control - มีระบบบัญชาการ ควบคุม ประสานงาน
สิ่งสำคัญประการที่สองคือ การตัดสินใจในภาวะวิกฤต การตัดสินใจในรูปแบบนี้จะไม่เหมือนสถานการณ์ปกติ เพราะไม่มีโอกาสที่จะแก้ไข วางแผน ต้องปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ แต่อย่างไรก็ตาม การป้องกันเชิงรุก จะช่วยให้การตัดสินใจดีขึ้น เพราะมีการคิด การวางแผนถึงสถานการณ์ล่วงหน้าไว้แล้ว ดังนั้น การวางแผนเพื่อเผชิญเหตุ จึงเป็นเครื่องมือชุดที่สาม ที่หน่วยงานต่าง ๆ ควรมีไว้เพื่อป้องกันวิกฤต
คราวนี้ลองหันกลับมาดูหน่วยงานของคุณบ้างว่า... มีอะไรที่กล่าวมาแล้วบ้าง?
ที่น่าตกใจสำหรับหน่วยงานหลายแห่งที่ผู้เขียนเคยได้สนทนาด้วย มักจะบอกว่า...
- อย่าวิตกเกินเหตุ
- เหตุการณ์ไม่เลวร้ายอย่างนั้นหรอก
- นาน ๆ จะเกิดขึ้นสักที และคงไม่เกิดหรอก
- ถ้าเกิดขึ้นก็ว่ากันตามสถานการณ์
- อย่างมากก็ปิดทำการ ไม่มีอะไรมากหรอก
- ค่าเสียหายตอนนั้นคงไม่มากหรอก สู้เก็บเงินไว้รอให้ปัญหาเกิดก่อนค่อยว่ากัน
- ฯลฯ
- รายได้ที่หายไป
- ความน่าเชื่อถือ
- ความเป็นมืออาชีพ
- โอกาสในการทำรายได้
- เสียคุณค่าของแบรนด์
- ความวุ่นวายในหน่วยงาน
- การทะเลาะเบาะแว้งของพนักงาน
- ฯลฯ
เตรียมไว้เถอะครับ อย่าให้วิกฤตมาทำลายโอกาส จงพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสดีกว่า... อย่างน้อยก็มีความเป็นมืออาชีพในการบริหาร ไม่ใช่การบริหารตามสถานการณ์ไปวัน...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น