วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2559

จริงไหมครับ?

ช่วงนี้น่าจะเป็นช่วงตกผลึกความคิดที่ได้จากการอยู่ร่วมสังคม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจะพบเห็นอะไรมากมาย และน่าเสียดายที่ความเจริญต่างๆ กลับสวนทางการพัฒนาทางด้านจิตใจ คนเห็นแก่ตัว ไม่สนใจคนอื่นมากเป็นพะเรอเกวียน...

ข้อความต่อไปนี้จึงเป็นความรู้สึกอยากเรียบเรียงบันทึกเก็บไว้ บางอันก็เป็นชุดบ้าง บางอันก็เดี่ยวๆ แล้วค่อยมาเรียบเรียงใหม่อีก หากสังเกตดีๆ ก็จะเห็นว่าหลายประโยคมีคำผรุสวาทปิดท้ายเสมอ ก็หาใช่ความหยาบคายอะไร เพียงแต่นำมาประกอบเพื่อยืนยันสิ่งที่เป็นให้หนักแน่นขึ้น

ใครจะนำไปใช้ก็ไม่ว่ากัน และจะขอบคุณหากให้เครดิตบ้างสักเล็กน้อย แต่บางประโยคก็อาจจะเหมือนของคนอื่นบ้างก็เป็นธรรมดา เพราะข้อความที่เกิดจากความคิดมักมีประสบการณ์ในอดีตเจือปนจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าจะคล้ายกัน เพราะอาจได้ยินมา ได้เห็นมาบ้าง และคิดทำนองเดียวกันบ้าง ก็ขอขอบคุณข้อความอื่นๆ ที่เป็นแนวคิดแรงบันดาลใจไว้ ณ ที่นี้
...
บางคนก็น่าขำแนะนำคนอื่นได้แต่ไม่เคยดูตัวเอง... สวะ
บางคนก็มีผลงานจากการแนะนำให้คนอื่นปรับปรุง แต่ไม่เคยปรับปรุงตัวเอง... โสโครก
บางคนก็ดีแต่เสนอหน้า ใครพูดอะไรก็พลอยเงี่ยหูฟังแล้วก็เสือกทุกเรื่อง... เส็งเคร็ง

วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ลัทธิหวังผลดลบันดาล... เหลือบมารแห่งพุทธศาสนาโดยแท้จริง

คิดหลายตลบเหมือนกันว่าข้อเขียนนี้แรงไปไหม แต่ก็ตัดใจในประเด็นต่างๆ ออกแล้วมาคิดใหม่ว่าจะนำเสนอเรื่องนี้ สืบเนื่องจากมีข่าวกรณีผู้กำกับหนังคนหนึ่งประกาศเลิกนับถือศาสนาพุทธเพราะที่ผ่านมาทำประโยชน์ให้กับศาสนามาตลอดเวลา แต่วันนี้ศาสนากลับไม่ช่วยอะไรเลย 

ตะลึงไปพักใหญ่เมื่ออ่านข้อความดังกล่าว

รู้สึกสะพรึงกลัวในความคิดเห็นนี้อย่างมาก เพราะเป็นเรื่องของแนวคิดสะท้อนให้เห็นถึงวิธีการคิดต่อการปฏิบัติในศาสนาของคนนั้นๆ

ที่ผ่านมาก็ไม่รู้ว่าคุณประโยชน์ที่สร้างต่อศาสนานั้นคืออะไร หรือเพียงแค่การทำบุญ การสร้างอะไรให้วัดวาอาราม และถือว่าทำคุณประโยชน์อันยิ่งใหญ่แล้ว ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ถือว่า เข้าใจคำว่าศาสนาผิด โดยเฉพาะศาสนาพุทธ

หรือคิดว่า การนับถือพระเกจิอาจารย์ดังอย่างเลื่อมใสศรัทธาแล้วนั่นคือ การนับถือศาสนาพุทธ ก็ผิดอีกเช่นกัน

แล้วที่บอกว่าชีวิตวอดวายพินาศไปนั้นศาสนาไม่ได้ช่วยอะไร นี่ยิ่งเข้าใจผิด และมีท่าทีต่อท่าทีต่อการเดินเข้าหาศาสนาเป็นอย่างมาก เพราะสะท้อนให้เห็นว่า เขานับถือพระพุทธศาสนาเพียงเพื่อให้ศาสนาช่วยให้ประสบผลสำเร็จในชีวิต

วันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

รวมบทความที่เขียนไว้ในนิตยสารและเว็บไซต์

หลังจากที่เขียนบทความให้นิตยสาร ภูวธรรม ซึ่งเป็นเอกสารแจกฟรีสำหรับผู้โดยสาร สมบัติทัวร์ ซึ่งเป็นนิตยสารราย 2 เดือน โดยเนื้อหาหลากหลาย แต่จะเน้นการเขียนเชิงวิเคราะห์ บอกเล่า โดยพยายามนำเสนอในสิ่งที่ไม่ค่อยมีคนนำเสนอ หรือค้นหาในอินเตอร์เน็ตไม่ค่อยเจอ เพื่อเพิ่มมุมมอง เพิ่มความคิดเห็นจากหลายมุมมอง...

บทความของนิตยสารภูวธรรมส่วนใหญ่จะเป็นต้นฉบับที่ยังไม่ได้จัดทำกราฟฟิก และใช้นามแฝง: เพชรจันทร์, ชิตมนัส ชินารมย์, จุฬาลัมภา, พิมพ์ปัญญา และ picturaworld

ส่วนเว็บไซต์ที่เขียนไว้นั้นก็มีบทความเก่าตั้งแต่ปี 49 จนถึงปัจจุบัน (2558) โดยใช้นามแฝง โยธินิน, yothinin และ foxdev

ลิงค์ที่แสดงไว้เป็นไฟล์แบบ pdf ซึ่งนำไปเก็บไว้ใน google drive สามารถคลิกที่ลิงค์เพื่ออ่านหรือดาวน์โหลดได้

วันจันทร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2558

พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ กับ "วัฒนธรรมตามใจผู้สร้าง"

หลายครั้งที่ผู้เขียนกล่าวถึงการพัฒนาสิ่งต่างๆ ของผู้คนในบ้านเรามักเป็นแบบ "เริ่มใหม่" ยึดตนเองเป็นศูนย์กลางของสรรพสิ่ง โดยมีวัตถุประสงค์หลักเป็น "ที่สุด" ไม่ว่าจะเป็น คนแรกสุด คนคิด คนสร้าง แม้กระทั่งหลายๆ เว็บไซต์หรือโพสต์ในแฟนเพจของเฟสบุคก็ยังมี คอมเม้นท์แรกสุด...

อีกประการหนึ่งคนไทยส่วนใหญ่ "บ้า... ที่สุดในโลก" ประเภท แห่งเดียวในโลก ใหญ่ที่สุดในโลก จนเกิดการแข่งดี บ้าดีกันที่สุดในโลก เช่นกัน

การพัฒนาเช่นนี้กลับเป็นการเร่งการทำลายในหลายด้าน ไม่ว่ารากเหง้าของสังคม ทำลายองค์ความรู้ต่างๆ เพราะแนวคิดที่ "ไม่ยอมรับความสามารถของผู้อื่น" สิ่งดีๆ ต่างๆ จะต้องเกิดจากตนเองเท่านั้น

แนวคิดแบบนี้ทำให้คนหลายคน (โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในส่วนของการบริหารจัดการ หรือผู้มีอำนาจ มีอิทธิพลทางความคิด ทางการกระทำ) มักจะทำอะไรใหม่ๆ ตามใจตนเอง โดยไม่มองบริบทรอบด้าน ไม่มองความเป็นจริง ไม่มองความถูกต้อง ไม่มองถึงผลกระทบและปัญหา ทำให้สังคมบ้านเรากลายเป็นสังคมที่ยึดถือไม่ได้ เพราะข้อมูลเท็จมากขึ้นทุกวัน

วันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2557

กรอบการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์: ธรรมะ ศิลปะ และประวัติศาสตร์

(สืบเนื่องจากเดิมเคยเขียนไว้แล้วครั้งหนึ่งเรื่อง ประวัติศาสตร์ ธรรมะ และศิลปะ วันนี้จึงเขียนต่อในเรื่องการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์บ้าง)

การพัฒนาทรัพยามนุษย์ในปัจจุบันจะอยู่ในเรื่อง การฝึกอบรม และ On-the-job-training เป็นหลักใหญ่ มีระบบพี่เลี้ยง (Monitoring) บ้าง และอื่นๆ ลดน้อยไปตามลำดับ แต่โดยพื้นฐานเมื่อคิดถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์แล้วไม่พ้นการฝึกอบรม การสัมมนา เพราะเป็นวิธีการที่ง่าย เห็นชัดเจนเป็นรูปธรรมกว่าวิธีอื่น

สำหรับผู้เขียนที่สังเกตการพัฒนาในรูปแบบต่างๆ ศึกษาหาอ่านมาตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปีนี้กลับพบว่าวิธีการดังกล่าวเป็นวิธีการที่ไม่ได้ผลเท่าที่ควร ได้อย่างมาก 10-20% โดยเฉพาะการอบรมภาคบังคับ ไม่ไปไม่ได้ ไม่ไปมีเรื่อง ไม่ไปต้องเขียนรายงาน หรือมีผลต่อการประเมิน สิ่งเหล่านี้ได้แต่ปริมาณ ไร้ซึ่งคุณภาพ สุดท้ายกลายเป็นตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ


วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

แนวทางฝึกหัดเพื่อเขียนบทความ: คิดก่อนพูด และคิดก่อนเขียน

พูดได้ก็เขียนได้ พูดเป็นก็เขียนเป็น ทั้งพูดและเขียนต่างต้องใช้ความคิด ต้องเรียบเรียงความคิดเพื่อสื่อออกมา...

เมื่อวานได้เขียนแนวทางการฝึกหัดการเขียนบทความแล้ว ชื่อตอน นักเขียนย่อหน้าเดียว เป็นการแนะนำให้คนเริ่มเขียนบทความได้ฝึก ง่ายๆ ด้วยการเขียนทุกวันผ่านเฟสบุ้กหรือสื่อออนไลน์ต่างๆ โดยเปลี่ยนวิธีการเขียนเสียใหม่ ให้เขียนหนึ่งย่อหน้า แล้วให้ได้ใจความให้ได้สาระ มีความเป็นเอกภาพ ลื่นไหล สามารถนำไปแตกประเด็นใหม่ได้อีก เหมือนที่มีคนบอกว่า

พูดได้ก็เขียนได้ พูดเป็นก็เขียนเป็น ทั้งพูดและเขียนต่างต้องใช้ความคิด ต้องเรียบเรียงความคิดเพื่อสื่อกมา แต่จะดีมากน้อยแค่ไหนก็ว่ากันไปตามเหตุปัจจัย