วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ปปัญจธรรมมูลเหตุของสงครามทุกชนิด

ปปัญจธรรม คือ ตัณหา มานะ ทิฏฐิ นี่แหละครับที่ก่อให้เกิดการต่อสู้อย่างยิ่งใหญ่ เป็นกิเลสชนิดหนึ่ง ที่มีอยู่คู่กับ โลภะ โทสะ โมหะ

ตัณหาความอยากได้ใคร่มีทำให้แย่งชิงต่อสู้ให้ได้มา มานะ เป็นความถือตัวถือตน คิดว่าตนเองใหญ่ ยึดตัวกูของกู ทำให้ไม่เกรงกลัวผู้ใด ก่อให้เกิดสงครามแย่งชิงเช่นกัน

ทิฏฐิ คือ ความคิด ความเห็น อุดมการณ์ ตัวนี้ใหญ่เลยครับ ใหญ่เสียใจทำให้เกิดความหลงผิด เป็นมิจฉาทิฏฐิ การต่อสู้ด้วยทิฏฐินี้ เป็นการต่อสู้ที่ยาวนาน ไม่มีทางสิ้นสุด เพราะเป็นความคิดที่ฝังหัว ปลูกฝังสู่ลูกสู่หลาน กลายเป็นวัฒนธรรมของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไป

ตอนนี้ในสังคมไทยกำลังเข้าสู่สภาวะที่หลายคนกำลังลุ่มหลงมัวเมาใน ปปัญจธรรม  คือ อยากได้อยากไม่ ยึดมั่นตัวตน ยึดในทิฏฐิของตน ทำให้สังคมปั่นป่วน จวนเจียนเต็มที

แต่สังคมนี้เราหลายคนยังไม่ทราบว่า ตกอยู่ในกิเลสเหล่านี้ กลับมองเห็นเป็นเรื่องปกติ นี่แหละประเทศไทย น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งครับ

ตัวอย่างตัณหาก่อให้เกิดสงคราม:

อเมริกาอยากได้ทรัพยากรน้ำมันจากตะวันออกกลางเลยเป็นส่วนหนึ่งของสงคราม (ตัณหา)

ศากยวงศ์รังเกียจพระเจ้าวิฑูฑภะ ที่เกิดจากพระเจ้าปเสนทิโกศลกับนางทาสที่ราชวงศ์ศากยะย้อมแมวส่งไปให้เป็นการถือตัวตน ถือวรรณะ สุดท้ายพระเจ้าวิฑูฑภะล้างราชวงศ์ศากยะจนเกือบสูญสิ้น จนไม่เหลืออำนาจ (มานะ)

สงครามระหว่างอิสราเอล กับ ปาเลสไตน์ เป็นเรื่องของดินแดนตามพันธสัญญาที่พระเจ้าให้ไว้ว่า ดินแดนแห่งพระเจ้าประทานให้ กลายเป็นสงครามยืดเยื้อจากอดีตถึงปัจจุบัน (ทิฏฐิ)

จะเห็นได้ว่า สงครามที่เกิดจาก ทิฏฐิ นี้เป็นสงครามที่ยืดเยื้อสิ้นสุดได้ยาก ใช้ระยะเวลายาวนาน และไม่มีท่าทีว่าจะสิ้นสุด

ทุกวันนี้สังคมไทยก็ได้เห็นแล้วว่า ความแตกแยกทางสังคมของเราเกิดความเห็นต่าง ซึ่งนั่นก็คือ ทิฏฐิ ตามหลักพุทธศาสนา เป็นทิฏฐิของตนเอง ของฝ่ายตนเอง และไม่ต้องถามว่าเป็นทิฏฐิแบบ สัมมาทิฏฐิ หรือ มิจฉาทิฏฐิ

หากเป็นสัมมาทิฏฐิแล้วย่อมเห็นเหมือนกัน เห็นความจริงแท้แน่นอนของสรรพสิ่ง เห็นทั้งเขาและเรา เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม แล้วความเดือดร้อนจะเกิดได้อย่างไร

ทิฏฐิที่สร้างปัญหาทุกวันนี้คือ มิจฉาทิฏฐิ อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อแดง หรือ กปปส. ก็ทิฏฐิฝ่ายตัวเองทั้งนั้น... หรือว่าใครมีความเห็นต่างบ้างครับ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น